บันทึกการลดน้ำหนักสำหรับคนที่ไม่กินเนื้อสัตว์


สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ที่รักทุกท่าน

น้ำผลไม้ผสมผักปั่น Green Smoothie อร่อย

น้ำผลไม้ผสมผักปั่น Green Smoothie อร่อย

ในที่นี้จะขอเขียนบันทึกการปฏิบัติในเรื่องกระบวนการกินอาหาร เพื่อลดน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นมามาก จนเป็นอุปสรรค ต่อการออกกำลังกายและรักษาอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าค่ะ

#####

ก่อนอื่นต้องบันทึกสิ่งที่ลดและเลิกกินก่อนค่ะ

ก) เลิกกินผลิตภัณฑ์อาหารที่มาจากแป้งสาลีทุกชนิด เช่น ขนมปังทุกชนิดรวมแครกเกอร์ ซาละเปา ขนมเปี๊ยะ เส้นบะหมี่ อุด้ง เป็นต้น และลดผลิตภัณฑ์อาหารจากแป้งรวมข้าว เส้นหมี่เส้นใหญ่ และธัญพืช ฯลฯ

ข) เลิกอาหารทอด อาหารผัดน้ำมัน รวมทั้งลดอาหารที่ติดน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันจากพืชด้วย

ค) เลิกขนมที่ใส่น้ำตาลโปรเซสทุกชนิด รวมโยเกิร์ตนมครีมชีส

ง) เลิกของเค็มทุกชนิด โดยเฉพาะที่ใส่เกลือ กะปิ น้ำปลา ปลาร้า ปลาเค็ม ปูดอง ฯลฯ (ของโปรดทั้งหมด)

จ) เลิกดื่มกาแฟทั้งที่มีและไม่มีคาเฟอีน (เป็นเสือถอดเขี้ยวแล้วจริง)

เหล่านี้คือส่วนหนึ่งของสิ่งที่ยังกินในช่วงที่ไม่กินเนื้อสัตว์ โดยอ้างในใจว่า เพื่อทดแทนกัน… อย่างไรเสีย ก็ถือว่าเป็น “ระยะผ่านหลังเลิกกินเนื้อสัตว์” ในเวลาประมาณปีเศษที่ผ่านมาค่ะ

#####

ไม่โหดไปหรือ?

ลิสต์ข้างบนนี้เป็นอย่างน้อยแล้วค่ะ หลายคนอาจสงสัยว่า เนื้อสัตว์ก็เลิกกินไปแล้ว ยังมาเลิกเป็นลิสต์ยาวนี่อีก แล้วจะเหลืออะไรที่ยังกินได้ในโลกนี้…

มีค่ะมีของที่กินได้กินดี และพบว่ามันเป็นสิ่งที่ simple มากเลยค่ะ

#####

บันทึกสิ่งที่กินในแต่ละวันโดยหลักๆ ค่ะ

ก) ตื่นเช้ามาดื่มน้ำมะนาว /หรือ น้ำลูกพลัม/ หรือน้ำขิงโดดๆ (แล้วแต่จะมีอย่างไหน) ที่เรียกว่า “น้ำล้างพิษ” Detox water ทำง่ายๆ น้ำมะนาวก็บีบมะนาวหนึ่งลูกผสมน้ำเย็นลิตรนึง แล้วใส่ตู้แช่เย็นไว้ หรือทำเดี๋ยวนั้นใส่น้ำเย็นๆ เติมน้ำแข็ง เอามาเหยือกนึง (ประมาณ 1 ถึง 1.5 ลิตร) แล้วเอามาดื่มเลยก็ได้ค่ะ

ข) หลังจากนั้นสักชั่วโมงเศษก็ดื่มผลไม้ปั่น (สมูธี่) หรือทานผลสดตามฤดูกาลรวมเท่ากับอาหารหนึ่งมื้อ หรือประมาณ 200-300 กิโลแคลอรี่หรือใส่ขวดแก้วได้ประมาณ 700-800 มิลลิลิตร หรือเท่ากับกล้วยหอมขนาดกลาง 3-4 ลูก สตรอว์เบอรี่ 4-5 ลูก บลูเบอรี่กำมือหนึ่ง ผสมน้ำมะพร้าวประมาณแก้วเล็กๆ หากเบื่อก็เปลี่ยนสูตรผสมใหม่ ตามชอบ เช่นกล้วยน้ำว้าผสมส้มเขียวหวาน สับปะรด มะม่วง ได้ทั้งสุกทั้งดิบ มะละกอ ชมพู่ ฝรั่ง แอปเปิ้ล ได้ทั้งหมด

ค) กลางวันทานสลัดผักชามใหญ่ๆ (ต้องทานเยอะหน่อยเพราะเราไม่ทานแป้งหรือเนื้อ) ใช้ผักสลัดปลอดสาร ตามใจชอบ ที่สำคัญคือน้ำสลัด ควรทำเองเพื่อเลี่ยงของที่เราไม่พึงรับประทาน น้ำสลัดมีมากมายหลายสูตร คิดประดิษฐ์ จากสิ่งที่เรามีเรากินได้ ฉันมักใช้สูตรน้ำผึ้ง บีบมะนาวเติมซีอิ้วขาวเห็ดหอม กับสูตรน้ำส้มบาลซามิกผสมน้ำมันมะกอก โรยลูกผักชีป่นและพริกไทดำป่น หรือใช้ผักหลากชนิดหลายรสชาติทานพร้อมกันโดยไม่ใช้ราดน้ำสลัดก็ได้ ถ้ายังรู้สึกว่า เบาเกินไป ก็เพิ่มมันฝรั่งหรือมันเทศหรือฟักทองนึ่งเติมเข้ามาสักเล็กน้อยก็ได้นะคะ

ง) ระหว่างวันควรมี Detox water ติดตัวไว้เสมอ ใช้ดื่มแทนน้ำก็ได้ (นอกจากช่วยล้างระบบร่างกายให้สะอาด ยังทำให้เราไม่หิวสะเปะสะปะอีกด้วยค่ะ) เราจะรู้สึกอิ่มและมีความสุขกับชีวิตในทุกย่างก้าวค่ะ

จ) ช่วงบ่ายหากหิวก็ทานผลไม้สด หรือผลไม้ปั่นแบบช่วงเช้าอีกรอบก็ได้ เราก็จะอิ่มเอมไปถึงเย็นเลยค่ะ

ฉ) มื้อเย็นหากหิวก็ทำอะไรเบาๆ ทาน แนะนำว่าควรยังอยู่ในเมนูอาหารที่ยึดผลไม้และผักสดเป็นหลัก จะมีผักลวกต้มบ้างก็เป็นครั้งคราวเป็นส่วนประกอบ เช่น เมนูประเภทเมี่ยงผักต่างๆ พยายามเลี่ยงของดองค่ะ

#####

ถือว่าเป็นครั้งแรกที่กระบวนการลดน้ำหนักไม่ได้ทำให้มีความลำบากในเรื่องการกินอาหาร ไม่รู้สึกหิวโหย โรยแรง ในทางตรงข้ามอิ่มมีความสุขและกระปรี้กระเปร่าดี การนอนก็ดีขึ้น ไม่ดื่มกาแฟก็ไม่ง่วง ไม่ปวดศีรษะด้วยค่ะ

อย่างไรก็ตาม ก็ยังต้องมีวินัยอย่าเผลออย่าหลุดอย่าลืม โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำดีท็อกซ์ เป็นหัวใจสำคัญอันหนึ่ง ที่ทำให้เราไม่หิว และผลไม้ทำให้เราอิ่มเอมเปรมใจมาก ผักสดก็ทำให้ได้รับสารอาหารแร่ธาตุครบถ้วนไม่ขาดพร่อง

หาร้านเจ้าประจำที่เราจะได้ผลไม้และผักสดที่ดีๆ มาไว้รับประทานได้สม่ำเสมอ และเปิดพื้นที่ในตู้เย็นเอาไว้ แช่แข็งผลไม้สุกที่เรากินเป็นประจำไว้เยอะๆ…

มันเป็นกระบวนการลดน้ำหนักที่เรียบง่ายมากเท่าที่ฉันเคยปฏิบัติมาในชีวิตก็ว่าได้ค่ะ///

This entry was posted in Food and drink, Fruitarian, Health and wellness, plant_based_food, raw_vegan, Vegan. Bookmark the permalink.

Leave a comment